Connect with us

Uncategorized

บ้านสระบุรี ฤทธิ์ ลือชา

Advertisement

สำหรับยอดนักแสดงบู๊รุ่นใหญ่ ‘ฤทธิ์ ลือชา’ ปัจจุบันในวัย 78 ปี ยังคงทำงานช่วยเหลือสังคมอีกทั้งยังเรียนจบใน

ระดับปริญญาเอก ได้คำนำหน้าว่า ‘ด็อกเตอร์’ เข้ารับปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี

นอกจากนี้ ‘ฤทธิ์ ลือชา’ ได้ตัดสินใจสร้างบ้านริมเข้าที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ย่าน ถ้ำวิมานจักรี ซึ่งเป็น

Advertisement

ถ้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นถ้ำมงคล ในพระพุทธบาท เรียกได้ว่ามีบั้นปลายชีวิตของเขานั้นได้ขอกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ต่างจังหวัด

กับครอบครัว หวนคืนธรรมชาติ อีกทั้งในปัจจุบัน ‘ฤทธิ์ ลือชา’ นอกจากอาชีพเป็นนักแสดงแล้ว ยังมีกิจการร้านอาหาร

ชื่อร้าน “บุญบันดาล” ที่จังหวัดสระบุรีอีกด้วย และด้วยความที่เขามีชื่อเสียงอยู่แล้ว ทำให้ช่วยดูแลกิจการครอบครัวของน้องสาว

Advertisement

ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงวัวอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของต้นลองกองที่มีอายุมากที่สุดในโลก อายุที่พิสูจน์แล้ว 200 ปี น่าจะเป็น

ต้นแรกของประเทศไทย และ มีต้นเดียวบนยอดเขาที่บ้านซีโป ตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส อีกทั้ง ‘ฤทธิ์ ลือชา’

ไม่เพียงแต่ทำสวนทำไร่นาเท่านั้น เขายังสนใจการเล่นไก่ ถึงขนาดได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาพันธ์ไก่ไทย ส่งเสริมการเลี้ยงไก่

Advertisement

อีกด้วย ส่วนทางด้านชีวิต เป็นชาวไทยมุสลิมภปาทาน เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี

เมื่ออายุ 16 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอินทรศึกษา เมื่อจบการศึกษาแล้ว ในตอนอายุ 18 แต่ทว่าสอบไม่ติด จึงย้ายไปอยู่ที่

จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นชุมชนแขกปาทานที่มีชื่อเสียง เพื่อช่วยดูแลกิจการครอบครัวของน้องสาว ซึ่งเป็นฟาร์มปศุสัตว์เลี้ยงวัว

Advertisement

‘ฤทธิ์ ลือชา’ มีหน้าที่ช่วยรีดนมวัวส่งจำหน่ายในตอนเช่า อีกทั้งชีวิตในวงการบันเทิงของ ‘ฤทธิ์ ลือชา’ ถูกชักชวนให้เข้าวงการจาก

‘พร ไพโรจน์’ แสดงครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง ข้ามาคนเดียว ในปี พ.ศ. 2521 ก่อนจะโด่งดังในบทดาวร้ายในอดีต จนมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้

และชีวิตครอบครัวของ ‘ฤทธิ์ ลือชา’ สมรสตั้งแต่ก่อนเข้าวงการบันเทิง มีบุตรด้วยกันทั้งสิ้น 5 คน เป็นบุตรชาย 1 คน และบุตรสาว 4 คน

Advertisement
Advertisement

More in Uncategorized

  • บ้าน อู ภาณุ

    Advertisement เชื่อว่าคอละครช่อง 7 ต้องจำอดีตพระเอกตัวท็อปแห่งวิกหมอชิตคนนี้ได้อย่างแน่นอนสำหรับ อู ภาณุ สุวรรณโณ พระเอกสุดฮอตที่ไม่ค่อยมีกระแสข่าวแต่มีผลงานมากมาย แถมผลงานแต่ละเรื่องก็สามารถทำให้คนดูชื่นชอบและจดจำ อาทิ iชลยบๅป , แก้วตาหวานใจ , สาวน้อยร้อยล้ๅน และก็อื่นๆอีกมากมาย แต่ปัจจุบัน อู ภาณุไม่ใช่พระเอกแล้ว Advertisement เพราะต้องยอมรับว่ามีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาตามยุคสมัย แต่ว่าเจ้าตัวก็ยังมีผลงานละครให้ได้ชมตลอดนะ ในบทตัวร้ๅยและตัวรองบ้าง ยอมรับในฝีมือถ้าไม่ดีจริงคงอยู่ไม่ได้ถึงทุกวันนี้ โดยเจ้าตัวยังได้โอกาสได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ติดหรู ด้วยการปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเองรอบบ้าน งานนี้มีความสุขแบบเพียงพอ ทำเอาบรรดาแฟนๆที่ติดตามสรรเสริญกันถ้วนหน้า Advertisement เป็นwระเอกช่อง7 ที่เคยดังมากๆสำหรับ อู ภาณุ สุวรรณโณ เพราะเขาเคยเล่นเป็นwระเอกประกบซุปตาร์แถวหน้ามาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อั้ม พัชราภา ภาณุ สุวรรณโณ หรือ อู เป็นนักแสดงชายชาวไทยที่มีผลงานเป็นที่น่าจับตามองมากมาย อูยังเคยเป็นสมาชิกของวงโมโน เมื่อปี พ.ศ. 2546 ของค่ายอาร์เอสร่วมกับสิงโต นำโชค และสมาชิกคนอื่นอีก 2 คน โดยเป็นมือกลองและก็นักร้องนำของวง Advertisement...

  • ยอร์ช ยงศิลป์ พี่ชายที่อบอุ่น

    Advertisement มิตรภาพยังคงงดงามอยู่เสมอ สำหรับสองศิลปิน-นักแสดงชื่อดังอย่าง ยอร์ช ยงศิลป์ และ น้องเมลิค เอเฟ่ เด็กหนุ่มจากละครทองเนื้อเก้า แม้จะแยกย้ายไปใช้ชีวิตตามเส้นทางของตัวเองแล้วก็ตาม โดยปัจจุบัน ยอร์ช ยงศิลป์ ที่ล่าสุดได้เป็นสมาชิกวง TRAINEE A เด็กฝึกพร้อมที่จะเดบิวต์เป็นนักแสดงประเทศเกาหลีของค่ายดังในเกาหลี ในส่วนของน้องเมลิคก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะล่าสุดได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกในภาพยนตร์ แดงพระโขนง เรียกได้ว่าแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ Advertisement ขณะเดียวกันในงานเปิดตัวภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ ของภาพยนตร์เรื่องแดงพระโขนง ยอร์ช ก็ได้มีการส่งดอกไม้ช่อโตไปร่วมยินดีกับน้องเมลิคในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทางน้องเมลิคได้มีการออกมาโพสต์ภาพดอกไม้พร้อมแท็กไปที่ไอจีของยอรช์พร้อมกับแคปชันว่า เมื่อวานรอบปฐมทัศน์ ภาพยนตร์ แดงพระโขนง ผมขอบคุณมากๆเลยนะครับ Advertisement แม้ลูกของคุณแม่ลำยอง ในละครทองเนื้อเก้าจะแยกย้ายไปเดินตามเส้นทางตัวเองแล้ว มิตรภาพของทั้งสองก็ยังคงอยู่ ต่างคนต่างแสดงความยินดีและสนับสนุนกันละกันเสมอ รวมถึง นุ่น วรนุช ที่คอยเฝ้ามองทั้งสองอยู่ด้วยเช่นกัน Advertisement Advertisement

  • อาณาจักร เจี๊ยบ พิจิตตรา

    Advertisement บอย อนุวัฒน์ & เจี๊ยบ พิจิตตรา ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกคนเสมอทุกยามมีสุขร่วมสุขมีทุกข์ร่วมต้าน เมื่อใดที่ทุกข์กระจายไปเป็นวงกว้างเราก็พร้อมอยู่ เคียงข้างทุกคนซึ่งการทำความดีของทั้งบอย & เจี๊ยบ ก็ย่อมได้ดีล่าสุดทั้งคู่ได้เป็นผู้แทนของผู้ที่ทำความดี ให้สังคมเพื่อให้ทุกคนได้เห็นและชื่นชมในการทำดีนี้เป็นที่กระจายออกไป งานนี้ บอย &เจี๊ยบ ได้เปิดใจถึงเรื่องการได้มาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการกระตุ้นการทำความดี พร้อมเล่าถึงความตั้งใจที่ทำรถกับข้าวบอยเจี๊ยบขึ้นมา ล้วงทุนส่วนตัวไปนับล้านบาท “ในส่วนของรถพุ่มพวงต้องขอเล่าย้อนจุดเริ่มต้นทำรถยนต์พุ่มพวง จากประสบการณ์ช่วยโ๑วิดระลอกแรก ที่ทำข้าวกล่อง แล้วให้ประชาชนเดินทางมารับที่ร้kนอาหารของทั้งคู่ แต่พบว่าเป็นการกระจายไม่ทั่วถึงผู้ที่เดือดร้อนจริงๆบางคนลำบากเกินกว่าจะเดินทางมารับ เลยทำให้เรานึกถึงรถกับข้าวในวัยเด็ก ก็เลยคิดว่าวิธีนี้แหละน่าจะเวิร์คกว่า ได้ช่วยเหลือหลายทาง ทั้งการอุดหนุนสินค้า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ร้านของชำ ร้านค้าเล็กๆตลอดจนผู้ได้รับอย่างประชาชนผู้เดือดร้อน”เริ่มแรกคือทำจากเงิuเก็บที่พอจะมาอยู่บ้าง ตอนแรกคุยกันว่าเอาเงินเก็บก้อนนี้มาทำแต่ถ้ามันหมดเมื่อใดก็คือหมดนะ แต่พอเริ่มทำไป มันยังมีคนที่อยากได้ความช่วยเหลืออีกเยอะ รู้เลยว่าเมืองไทยเรามีชุมชนนิดๆหน่อยๆอีกเพียบ เลยรู้สึกว่าหยุดไม่ได้ แม้กระนั้นโชคดีว่านอกจากทุนส่วนตัว ก็มีประชาชนทั่วไป ที่เห็นเราทำแล้วต้องการร่วมช่วย แต่เราไม่รับบริจาคเงิน เราก็จะขอให้ส่งมาเป็นสิ่งของแทน รวมถึงเพื่อนญาติพี่น้องในวงการบันเทิงด้วย ที่ร่วมช่วยอยู่ตลอด อิ่มใจกับสิ่งที่ได้ทำหลายครั้งเห็นคลิปจากทีมงานที่ไปลงพื้นที่ก็ถึงกับน้ำตาไหล เมื่อชาวบ้านทราบว่ารถพุ่มพวง ของเราจะไป ก็มาตั้งแถวรอกันเป็นระเบียบ มีอาสาสมัครในชุมชนมาช่วยเหลือด้วย ดีใจที่สิ่งที่เราคิดกันมันช่วยเหลือคนได้จริงๆตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น Advertisement แล้วก็ล่าสุด “เจี๊ยบ พิจิตตรา” เผยเพิ่งครบรอบแต่งงาน 1 ปี แต่แทบไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงเพราะคบกันมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ปีนี้แฮปปี้เพราะปลดหนี้สินทุกอย่างแล้ว แต่ก็ยังลุยทำงานเก็บเงินต่อไป เรือนหอก็กำลังจะเสร็จปีนี้ ส่วนเรื่องลูกปล่อยตามธรรมชาติ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ซีเรียส อยู่กันสองคนตายายได้ Advertisement Advertisement

  • ปัจจุบัน ยุ้ย พิมพรรณ

    Advertisement ถ้าหากย้อนกลับไปราวๆ20 ปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงก็มีดารานักแสดง ชาย-หญิง แวะเวียนเข้ามาฝากผลงานไม่น้อยเลยทีเดียว รวมไปถึง ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ อดีตนักแสดง นางแบบจากเวที ‘ดัชชี่ บอย แอนด์ เกิร์ล’ อีกทั้ง ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ก็เคยได้ฝากผลงานการแสดงไว้มากมาย อีกทั้งภาพยนตร์ที่โด่งดังนั่นคือ ’14 ตุลาฯ’ และได้แสดงประกบคู่กับอดีตพระเอกดัง อย่าง ‘อู ภาณุ’ เป็นเรื่องแรกของกันและกันด้วยส่วนทางด้านละครก็ไม่ว่าจะเป็น ‘มณีเมขลา, สิบตำรวจโทบุญถึง, เลดี้เยาวราช, มังกรซ่อนพยัคฆ์’ และอีกมากมาย เดี๋ยวนี้ ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ ในวัยเลข 4 ก็หายหน้าจากวงการบันเทิง ไปนาน เลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ ก็ได้มีโอกาสมาเป็นนักแสดงรับเชิญอยู่บ้างประปราย โดยเมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 ได้ปรากฎตัวในละครเรื่อง ‘เดือนประดับดาว’ โดยมีแฟนๆตั้งกระทู้ถามในเว็บบล็อคชื่อดังไว้ว่า “มองอยู่นาน ว่านักแสดงท่านนี้หน้าคุ้นมาก แต่หุ่นเธอเปลี่ยนไปมากเช่นกันค่ะ เมื่อก่อนถูกใจยุ้ยมาก ตั้งแต่ประกวดดัชชี่เกิร์ล พอเล่นช่อง 7 เป็นนางเอกไม่กี่เรื่องก็หายหน้าไปเลย ไม่คิดว่าจะได้กลับมาแสดงละครอีกครั้ง ดีใจมากค่ะ” จนกระทั่งมีแฟนๆรายหนึ่ง เข้ามาตอบเจ้าของกระทู้นี้ว่า “น่าจะใช่ล่ะจ้ะ เราก็ชอบนะเมื่อก่อน เป็นคนที่สวย สวยจริงๆมองจ้องได้นานๆเลย” และจะต้อง บอกเลยว่ามีแฟนๆหลายชิ้นเลยทียังคิดถึงผลงานของ ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ หลังจากที่เงียบหายจากจอทีวีไปพักใหญ่ นางเอกสาวจากภาพยนตร์เรื่อง 14 ตุลาฯ ‘ยุ้ย พิมพรรณ จันทะ’ ก็กลับมารับละครอีกที ในละครเรื่อง ‘มังกรซ่อนพยัคฆ์’ Advertisement Advertisement

error: Content is protected !!